ประวัติของ อ.เออิจิโระโอดะ
ชื่อ เออิจิโระ โอดะ (Eiichiro Oda)
เกิด – วันที่ 1 มกราคม 1975 ปีกระต่าย
อาศัยอยู่ที่ – ประเทศญี่ปุ่น
จังหวัด – คุมาโมโต้ คิวชูว
อาชีพ – นักเขียนการ์ตูน
สิ่งที่ชอบ – ฟังเพลง ดูหนัง
สิ่งที่เกียจ – แมลงสาป แมงมุม (เพราะแมงมุมกินแมลงสาป)
นักเขียนในดวงใจ – อ.อากิระโทริยาม่า
การ์ตูนที่ชอบที่สุด – Dragon ball
วลีที่ใช้ต่อท้ายชื่อของ อ.โอดะ เออิจิโระ – ถ้าไม่ร้องต้องไปเอาโค้กมา
อ.เออิจิโระ โอดะ เมื่อสมัยยังเด็กได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนที่ได้ดูในวัยเด็กและอยากที่จะเป็นชนเผ่าไวกิ้ง จนต่อมา อ.โอดะได้ส่งตัวละคร “แพนด้าแมน”ไปยังจดหมายถึง “ยูเดะ ทามาโกะ” กลุ่มนักเขียนการ์ตูนมวยปล้ำสุดอมตะอย่าง “คินนิคุแมน”เพื่อไปเป็นตัวละครให้กับเรื่อง แต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์ เมื่อถึงอายุ 17 ปี อ.โอดะได้ทำการส่งผลงานเรื่องสั้นแรก”WANTED!” และได้รับการตีพิมพ์ รวมถึงยังได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย รวมถึงติดอันดับ2อยู่ใน “Tezuka Manga Award” อีกด้วย
อ.เออิจิโระ โอดะ เมื่อสมัยยังเด็กได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนที่ได้ดูในวัยเด็กและอยากที่จะเป็นชนเผ่าไวกิ้ง จนต่อมา อ.โอดะได้ส่งตัวละคร “แพนด้าแมน”ไปยังจดหมายถึง “ยูเดะ ทามาโกะ” กลุ่มนักเขียนการ์ตูนมวยปล้ำสุดอมตะอย่าง “คินนิคุแมน”เพื่อไปเป็นตัวละครให้กับเรื่อง แต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์ เมื่อถึงอายุ 17 ปี อ.โอดะได้ทำการส่งผลงานเรื่องสั้นแรก”WANTED!” และได้รับการตีพิมพ์ รวมถึงยังได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย รวมถึงติดอันดับ2อยู่ใน “Tezuka Manga Award” อีกด้วย
![]() |
เรื่องสั้นแรก WANTED |
![]() |
วันพีชเล่มที่ 24 |
จนมาถึงอายุ19ปีฯ อ.โอดะได้มีโอกาสร่วมงานกับ“โนบุฮิโระ วาสึกิ” เจ้าของผลงานการ์ตูนดังที่เป็นรู้จักกันดี นั่นคือ “Rurouni Kenshin” หรือ “ซามูไรพเนจร” นั่นเอง โดยอ.โอดะได้มีโอกาสเข้าร่วมงานในฐานะของลูกมือผู้ช่วยอ.โนบุฮิโระ ก่อนที่ตนจะชนะรางวัลสำหรับศิลปินหน้าใหม่ “Hop Step Award”
ต่อมาในปี1997 อ.โอดะ ได้ส่งผลงานใหม่ ของตัวเอง “One Piece” ออกมาสู่สายตานักอ่านการ์ตูน โดยได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสารShonen Jump ก่อนจะกลายมาเป็นการ์ตูนที่ติดอันดับครองใจนักอ่านการ์ตูนทั้งหลายในญี่ปุ่น เช่นเดียวกันกับ “DragonBall” ผลงานของ“อ.โทริยาม่า อากิระ” ผู้ เขียน Dr.Slump & Arale ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง
และในปี2006 อ.โอดะ ได้มีโอกาสเขียนเรื่องสั้นร่วมกับ อ.โทริยาม่า ผู้เป็นคนจุดประกายให้กับตน โดยร่วมกันออกผลงานเรื่องสั้นชื่อ “Cross Epoch” ซึ่งเป็นการนำตัวละครหลัก จากวันพีซ และดราก้อนบอลมาอยู่ร่วมกันในเรื่องเดียว โดยชื่อเรื่องก็นำชื่อจากนักเขียนทั้งสองท่านมารวมกัน Eiichiro Oda + Akira Toroyama = Cross Epoch
โดยวันพีซ นับตั้งแต่ตอนแรกจนถึงปัจจุบัน ยังคงมีเนื้อหาที่สนุกและได้รับความนิยมมาโดยตลอด และบัดนี้ยังคงมีตอนใหม่ๆตีพิมพ์ออกมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับการผจญภัยของเหล่าผองเพื่อน “โจรสลัดหมวกฟาง” กลุ่มตัวละครหลักของเรื่อง ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเหนือจินตนาการความฝันของทุกๆคนเสมอมา
และวันพีชเล่มที่ 24 ได้ถูกบันทึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนที่มียอดขายทั่วโลกถึง 65 ล้านเล่มอีกด้วย
วันพีซกลายเป็นการ์ตูน เริ่มจากมีทัวร์ Jump Super Star Anime ในปี 98 ขึ้น ทาง Jump จะให้เอาผลงานใน Jump มาทำเป็นหนังการ์ตูน โดยคัด 3 เรื่องออกฉากตามงานทั่วประเทศและ One piece ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยเนื้อเรื่องเป็นออริจินอลอนิเมชั่นเรื่องสั้น ใช้ชื่อเรื่องว่า “แก๊งโจรสลัด” มีตัวละครหลักๆ 3 ตัวคือ ลูฟี่ โซโล นามิ และมีตัวละครเพิ่มเติมเช่น แก๊งซัคคุ มังกรคอยาว เมลดากะ เฮริง และ สคิด
และในปี2006 อ.โอดะ ได้มีโอกาสเขียนเรื่องสั้นร่วมกับ อ.โทริยาม่า ผู้เป็นคนจุดประกายให้กับตน โดยร่วมกันออกผลงานเรื่องสั้นชื่อ “Cross Epoch” ซึ่งเป็นการนำตัวละครหลัก จากวันพีซ และดราก้อนบอลมาอยู่ร่วมกันในเรื่องเดียว โดยชื่อเรื่องก็นำชื่อจากนักเขียนทั้งสองท่านมารวมกัน Eiichiro Oda + Akira Toroyama = Cross Epoch
โดยวันพีซ นับตั้งแต่ตอนแรกจนถึงปัจจุบัน ยังคงมีเนื้อหาที่สนุกและได้รับความนิยมมาโดยตลอด และบัดนี้ยังคงมีตอนใหม่ๆตีพิมพ์ออกมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับการผจญภัยของเหล่าผองเพื่อน “โจรสลัดหมวกฟาง” กลุ่มตัวละครหลักของเรื่อง ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเหนือจินตนาการความฝันของทุกๆคนเสมอมา
และวันพีชเล่มที่ 24 ได้ถูกบันทึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนที่มียอดขายทั่วโลกถึง 65 ล้านเล่มอีกด้วย
วันพีซกลายเป็นการ์ตูน เริ่มจากมีทัวร์ Jump Super Star Anime ในปี 98 ขึ้น ทาง Jump จะให้เอาผลงานใน Jump มาทำเป็นหนังการ์ตูน โดยคัด 3 เรื่องออกฉากตามงานทั่วประเทศและ One piece ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยเนื้อเรื่องเป็นออริจินอลอนิเมชั่นเรื่องสั้น ใช้ชื่อเรื่องว่า “แก๊งโจรสลัด” มีตัวละครหลักๆ 3 ตัวคือ ลูฟี่ โซโล นามิ และมีตัวละครเพิ่มเติมเช่น แก๊งซัคคุ มังกรคอยาว เมลดากะ เฮริง และ สคิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น